ชนิดของถุงกระดาษและขั้นตอนการผลิตถุงกระดาษในโรงพิมพ์

สั่งพิมพ์ถุงกับโรงพิมพ์อย่างไรให้เหมาะสมกับสินค้า

โรงพิมพ์

 

หลายๆ ธุรกิจหันมาใช้ถุงกระดาษแทนถุงประเภทพลาสติกกันอย่างแพร่หลาย เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ภาวะโลกร้อน ลดการใช้สิ่งของที่ทำจากพลาสติก และช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ให้กับผู้บริโภค

กระดาษนับว่าเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาพิมพ์ถุงแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถออกแบบได้หลายขนาด มีความสวยงาม และยังตอบโจทย์การใช้งานในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงช่วยในเรื่องการโฆษณาเกี่ยวกับแบรนด์หรือธุรกิจนั้นๆ ได้อีกด้วย

ชนิดของถุงกระดาษแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ผู้ประกอบการจึงควรเลือกประเภทของถุงกระดาษให้เหมาะสมกับสินค้า

 

วันนี้โรงพิมพ์ All in one Printing เราจะมาแนะนำประเภทของกระดาษที่นิยมนำมาใช้พิมพ์ถุง

  1. กระดาษคราฟท์ (Kraft Paper)
    กระดาษสีน้ำตาลที่คงคอนเซ็ปต์ช่วยลดโลกร้อนนี้ มีการพิมพ์ถุงกระดาษที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ถุงกระดาษประเภทนี้มีผลช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ ส่งเสริมการรณรงค์ลดโลกร้อน และให้คนเลิกใช้พลาสติกได้เป็นอย่างดี

    กระดาษคราฟท์ เป็นกระดาษรีไซเคิลที่ถูกนำมาขึ้นรูปให้เป็นถุงบรรจุภัณฑ์ ความหนาขึ้นอยู่กับชนิดของกระดาษคราฟท์นั้นๆ เช่น กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลธรรมชาติ KT มีความหนา 125 แกรม 150 แกรม และ 175 แกรม หรือกระดาษคราฟท์สีน้ำตาล KP จะมีความหนา 230 แกรม และ 300 แกรม เป็นต้น

    ถุงกระดาษคราฟท์ มีคุณสมบัติที่สามารถนำมาดัดรูปร่างได้เล็กน้อย สีบนงานพิมพ์ถุงจะค่อนข้างมีความเพี้ยนเพราะตัวกระดาษมีสีน้ำตาล จึงเหมาะกับการพิมพ์ถุงประเภทนี้ด้วยสีเดียวมากกว่าหลายๆ สี เช่น โลโก้สีดำ มีสีที่ตัดกับพื้นถุงกระดาษสีน้ำตาล จะสามารถทำให้มองเห็นโลโก้ได้อย่างชัดเจน เชือกหูหิ้วนิยมใช้เชือกเกลียวทำจากกระดาษคราฟท์ เพื่อให้ดูเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และคงคอนเซ็ปต์รักษ์โลกด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลทั้งหมด

    ถุงกระดาษคราฟท์นั้นเหมาะกับสินค้าที่มีน้ำหนักไม่มาก หรือสินค้าที่มีธุรกิจในเชิงรักษ์โลก ปัจจุบันนิยมใช้ถุงกระดาษคราฟท์ในธุรกิจอาหาร เช่น ถุงเบเกอรี่ ถุงขนมเค้ก หรือถุงใส่อาหารต่างๆ เป็นต้น

  2. กระดาษขาว (White Paper)
    กระดาษสีขาวเป็นวัสดุอีกประเภทที่ได้รับความนิยมนำมาพิมพ์ถุงทำเป็นถุงกระดาษแบรนด์ เพราะราคาไม่สูงมาก ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ สามารถตัดแต่งให้เป็นรูปแบบต่างๆ ได้ง่าย มีน้ำหนักเบา มีความหนาของกระดาษอยู่ที่ 150 แกรม, 180 แกรม, 210 แกรม และ 240 แกรม

    ไม่นิยมนำไปเคลือบ และไม่เหมาะกับงานพิมพ์ถุงปูพื้นเป็นสีต่างๆ เพราะด้วยคุณสมบัติของกระดาษอาจทำให้สีออกมาไม่มีความสม่ำเสมอ

    กระดาษขาวอีกประเภทที่นิยมหันมาใช้กันมากคือ กระดาษกรีนการ์ด เป็นกระดาษรีไซเคิลที่มีคุณภาพสูง มีความหนาที่ 200 แกรม และ 250 แกรม

    สามารถรองรับหมึกพิมพ์ได้ดีกว่ากระดาษขาวธรรมดา งานพิมพ์ถุงโดยเฉพาะโลโก้จะมีความคมชัดสวย เชือกหูหิ้วที่นิยมใช้กับกระดาษประเภทนี้คือ เชือกเกลียวกระดาษสีขาว ซึ่งจะทำให้สีดูเป็นไปทางเดียวกับตัวถุงกระดาษ ถุงกระดาษขาวเหมาะนำไปใช้กับสินค้าที่มีน้ำหนักเบา เช่น เสื้อผ้า ผ้าพันคอ เครื่องแต่งกายต่างๆ เครื่องประดับผม เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ทดลองชิ้นเล็กๆ เป็นต้น

  3. กระดาษอาร์ตการ์ด (Art Card Paper)
    ถุงกระดาษจากกระดาษอาร์ตการ์ดนั้นเป็นถุงที่ได้รับความนิยมนำมาพิมพ์ถุงมากที่สุด มีความหนาให้เลือกตั้งแต่ 170 แกรมไปจนถึง 400 แกรม ในการพิมพ์ถุงกระดาษประเภทนี้จำเป็นต้องเคลือบด้วย OPP ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าต้องการเคลือบแบบเงาหรือเคลือบแบบด้าน ด้วยลักษณะผิวกระดาษที่ผ่านการเคลือบจึงทำให้กระดาษประเภทนี้มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทานมากที่สุดเมื่อเทียบกับกระดาษ 2 ประเภทที่กล่าวไปแล้ว สามารถรองรับสินค้าที่มีน้ำหนักมาก บรรจุของได้ปริมาณเยอะ และมีความสามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง

    ถุงกระดาษอาร์ตการ์ดสามารถใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ใส่สินค้าได้ทุกประเภทตามความเหมาะสม หรือใช้เพื่อให้ตอบโจทย์คุณภาพของสินค้านั้นๆ เช่น ถุงใส่สินค้าปลีกต่างๆ ถุงใส่ผลิตภัณฑ์แบรนด์ ถุงใส่เครื่องประดับ หรือถุงใส่เสื้อผ้าแบรนด์ เป็นต้น

    เชือกหูหิ้วจะนิยมใช้เชือกพีพีกับถุงกระดาษประเภทนี้ ซึ่งการประยุกต์นำวัสดุอื่นๆ มาทำเป็นเชือกหูหิ้วจะเป็นการเพิ่มมูลค่าของตัวถุงกระดาษ เช่น เชือกริบบิ้น ทำให้ถุงกระดาษมีความหรูหรา น่าใช้ เมื่อลูกค้าใช้เดินถือในชีวิตประจำวันก็จะทำให้ผู้คนสามารถมองเห็นแบรนด์ในที่สาธารณะ ช่วยให้แบรนด์เป็นที่จดจำของผู้บริโภคได้มากขึ้น


ประเภทของกระดาษทั้งหมดที่นำมาฝากนั้นล้วนเป็นกระดาษที่ได้รับความนิยมในการนำมาพิมพ์ถุงทำบรรจุภัณฑ์ที่เราสามารถพบเจอได้ในทุกวันนี้ ด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปก็จะสามารถตอบโจทย์กับการใช้งานที่ต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรเลือกถุงกระดาษให้เหมาะสมกับสินค้า เพื่อช่วยส่งเสริมและสามารถตอบโจทย์ทางการตลาดของธุรกิจนั้นๆ ได้

 

เทคนิคการสั่งพิมพ์ถุงผลิตถุงกระดาษกับโรงพิมพ์ที่จะทำให้คุณได้รับสินค้าอย่างถูกต้องและถูกใจ โดยลดความเสี่ยงให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

  1. แจ้งขนาดถุงที่ต้องการ พร้อมชนิดและความหนาของกระดาษ เช่น ต้องการกระดาษประเภทการ์ดอาร์ต ขนาดความหนา 270 แกรม เป็นต้น

  2. ระบุสีที่ต้องการใช้ว่ามีกี่สี หากต้องการทำให้ทั้งถุงเป็นสีเดียว สามารถแจ้งได้ว่า "ปูพื้นสี" แล้วตามด้วยสีที่คุณต้องการ ในกรณีที่เป็นสีพิเศษที่ต้องการโทนสีในแบบที่ตรงตามสเปค ก็สามารถแจ้ง Pantone เบอร์ที่ต้องการได้

  3. คุณสามารถออกแบบเชือกหูหิ้วได้ว่าต้องการใช้เชือกแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นเชือกเกลียว เชือกพีพี หรือเชือกในลักษณะพิเศษต่างๆ เช่น เชือกริบบิ้น หรือเชือกป่าน เพื่อให้ตรงตามโจทย์ธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ของคุณ

  4. สุดท้ายควรแจ้งจำนวนการผลิตที่ต้องการ และควรให้ Contact ต่างๆ ไว้ด้วย เพื่อให้โรงพิมพ์สามารถติดต่อกลับได้


หรือหากคุณยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้กระดาษประเภทใด หรือต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ถุงมากกว่านี้ โรงพิมพ์ ALL IN ONE PRINTING สามารถให้คำแนะนำและยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการพิมพ์ถุงกระดาษโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เรายินดีตอบทุกข้อสงสัยของลูกค้า เพื่อให้งานออกมาตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด มั่นใจว่าคุณจะได้รับบริการที่ดีที่สุด จากโรงพิมพ์คุณภาพสูง ที่ใส่ใจทุกขั้นตอนการพิมพ์ จัดส่งตรงเวลาตามนัดหมาย สะดวกสบาย บริการครบวงจรในที่เดียว

ติดต่อเราโรงพิมพ์ โรงพิมพ์ดิจิตอล All in One Printing
รับพิมพ์ซองจดหมาย 
พิมพ์คูปอง พิมพ์บิล

https://www.allinoneprinting.co.th
โทรศัพท์ : 02-115-3468
โทรศัพท์ : 02-865-2689, 02-865-2493
อีเมล : sale8.aiop@gmail.com



Visitors: 182,527